.

.

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เรื่องที่ 16 อาหารรสเลิศ


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีมหาเศรษฐีคนหนึ่ง มีนิสัยตระหนี่ ขี้เหนียวมาก ที่สำคัญชอบเพ่งโทษคนอื่น ตั้งแต่เกิดจนแก่เศรษฐีไม่เคยชื่นชมใครเลย ความนีได้ล่วงรู้ถึงพระเซน ด้วยกระจิตที่เปลี่ยมไปด้วยเมตตา ดังนั้นรุุ่งเช้าท่านจึงไปบิณฑบาตรโปรดมหาเศรษฐีถึงบ้าน เพื่อให้เศรษฐีคลาย ทิฐิมานะลง
พระเซนบิณฑบาตรติดๆกันอย่างนี้ถึงสามวันก็ไม่ได้อะไรเลย มหาเศรษฐีไม่ใส่บาตรเลย จนกระทั่งถึงวันที่สี่ขณะที่พระเซนกำลังบิณฑบาตรอยู่นั้น มหาเศรษฐีก็พูดขึ้นว่า

มหาเศรษฐี : พระจอมขี้เกียจ ไม่ยอมทำมาหากิน มาทำอะไรที่นี่ ท่านไม่มีทางได้อะไรจากเราหรอก
พระ เซนยืนนิ่งสักครู่แล้วพูดขึ้นว่า " ได้ซิ อย่างน้อยวันนี้ก็ได้คำพูดจากท่าน"

มหาเศรษฐีช้ำใจที่ด่าแล้วพระไม่ โกรธ จึงเพิ่มคำด่าให้แรงขึ้นว่า " คำพูดที่เป็นคำด่า ท่านชอบเหรอ ได้เราจะด่าให้อีก เจ้าพระหัวโล้น เจ้าพระขี้ขอ เจ้าพระฯลฯ จิปาถะคำด่า "

มหา เศรษฐี : ไงละ ไม่พูดอะไรเลย ท่านยอมแพ้ข้าแล้วใช่ไหมละ

พระเซนนิ่ง คิดสักครู่ก่อนจะพูดว่า " ช้าก่อนมหาเศรษฐี ก่อนที่เราจะตอบท่านเราขอถามท่านสักนิดได้ไหม เราได้ยินมาว่าท่านเป็นผู้มีปัญญามาก คงแก้ปัญหานี้ได้ "

มหา เศรษฐีได้ฟังแล้วปานว่าตัวจะลอย " ได้ซิ ถามมาเลย "

พระเซน : หากท่านทำอาหารอันเลิศรส แล้วเชื้อเชิญญาติมาบริโภคอาหาร หากญาติเหล่านั้นไม่บริโภคอาหารเลย ท่านจะทำอย่างไร

มหา เศรษฐี : ถามโง่ๆ ข้าก็บริโภคเองนะซิ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ
พระเซนนิ่งเงียบ สักครู่ก่อนจะพูดขึ้นว่า " เช่นกัน คำด่าของท่าน เราไม่ถือเอา ท่านก็จะเป็นผู้บริโภคเอง "

มหาเศรษฐีอึ้งและจุก จนแน่นหน้าอกเลยทีเดียว พูดอะไรไม่ออก เพราะโดนเต็มๆ ได้แต่ยืนนิ่งฟัง หลังจากนั้นพระเซนพูดต่อไปว่า " ผู้ที่ชอบเพ่งโทษคนอื่น เป็นบุคคลที่น่าสงสารอย่างยิ่ง เพราะในขณะที่เขาเพ่งโทษคนอื่น จิตใจของเขาเล่าร้อน เผารนตนเอง แต่คนที่ถูกเขาเพ่งโทษกลับไม่รู้สึกอะไรเลย "
ด้วยบทธรรมอันนี้เองมหา เศรษฐีก็ได้คลายมานะทิฐิลง