การครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มคนหนึ่ง กำลังพาบิดามารดาตาบอดไปฆ่าที่ป่าแห่งหนึ่ง สาเหตุเป็นเพราะไม่มีหญิงสาวคนไหนอยากมาอยู่กินกับเขา เพราะไม่อยากเลี้ยงคนแก่ตาบอดสองคน
ชายหนุ่มได้หลอกบิดามารดาของตนว่าจะพาไปหาที่อยู่ใหม่ทีดีกว่าเดิม แต่ระหว่างทางจะต้องเดินทางผ่านป่า กล่าวถึงบิดามารดาก็ดีใจมากที่จะได้ที่อยู่ใหม่ที่สะดวกสบายขึ้น "แหมลูกชายเราน่ารักจังเลย" คนแก่สองคนครุ่นคิดตามทางเรื่อยมา
เมื่อมาถึงกลางป่า ทางชายหนุ่มก็แจ้งบิดามารดาว่า
จะขอลงไปสำรวจทางสักครู่ ให้นั่งรอที่เกวียนก่อนนะ
เมื่อลงจากเกวียนได้ชายหนุ่มก็ทำท่าต่อยตีกับต้นไม้ทำเสียงร้องโหยหวนเจ็บ
ปวดเพื่อสร้างสถานการณ์ว่าโจรมาปล้นทำร้าย
บิดามารดาตาบอดเข้าใจว่าโจรจะฆ่าลูกชายก็ตะโกนด้วยความห่วงใยว่า
ลูกระวัง!!! ลูกระวัง!!!! หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินมาหาคนแก่
พร้อมกับเปลี่ยนโทนเสียงใหม่เป็นเสียงที่ดุดันว่า
ชายหนุ่ม : อ่ะ อ่ะ อ่า คนแก่สองคน คนรกโลกอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ มานี่ข้าจะสงเคราะห์ให้ไปสวรรค์เร็วๆ ว่าแล้วก็เอาไม้ทุบตีอย่างรุนแรง
แม้จะเจ็บสักเพียงใด คนแก่สองคนก็ไม่หยุดที่ร้องว่า " ลูกหนีไป ลูกหนีไป ไม่ต้องห่วงพ่อแม่หรอก รีบหนีไป รีบหนีไป "
จอมโจรเริ่มมือไม้อ่อนลง แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่หยุดทุบตี จนบัดนี้ร่างกายคนแก่สองคนได้อ่อนปวกเปียกลง มีแต่เสียงทีแผ่วเบาว่า " โจรจ๋า ฆ่าแต่ฉันนะ อย่าฆ่าลูกฉันเลย ฉันรักเขามาก เขาคือชีวิตของฉัน" "ลูกเอ๋ย เจ้าแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ เจ้าหนีไปให้ได้นะ ชีวิตพ่อกับแม่ทั้งชีวิตนี้แลกได้ทุกอย่างแม้กระทั่งความตายเพื่อเจ้า อย่าห่วงพ่อแม่เลยรีบหนีไปนะลูก รีบหนีไปนะลูก ๆ "
ชายหนุ่มเมื่อได้ฟัง ก็ได้เห็นความรักอันยิ่งใหญ่มหาศาลจากบิดามารดาตน เขาจึงได้สำนึกผิดในความผิดอันใหญ่หลวงที่ตนได้ก่อไว้กับผู้มีพระคุณ ว่าแล้วเขาจึงรีบนั่งคุกเข่าลงไปช้อนเอาร่างคนแก่สองคนมาโอบกอดไว้ แล้วก็ร้องไห้โฮ แต่ทว่าชายหนุ่มคนนี้ยังโชคดีที่บิดามารดายังไม่สิ้นใจ เขาจึงรีบโอบอุ้มเอาร่างบิดามารดาขึ้นเกวียนแล้วรีบพาไปยังบ้านหมอที่เก่ง ที่สุดเพ่อให้รักษาบิดามารดาให้หาย แม้ค่ารักษาจะแลกด้วยทรัพย์สมบัติที่เขามีอยู่ทั้งหมดก็ตาม
วันเวลาผ่านไปบาดแผลกายของคนแก่สองคนก็ได้หายสนิทไป แต่ทว่าบาดแผลในใจชายหนุ่มนี่ซิ ไม่มีทีท่าว่าจะบางเบาเลย
ชายหนุ่ม : อ่ะ อ่ะ อ่า คนแก่สองคน คนรกโลกอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ มานี่ข้าจะสงเคราะห์ให้ไปสวรรค์เร็วๆ ว่าแล้วก็เอาไม้ทุบตีอย่างรุนแรง
แม้จะเจ็บสักเพียงใด คนแก่สองคนก็ไม่หยุดที่ร้องว่า " ลูกหนีไป ลูกหนีไป ไม่ต้องห่วงพ่อแม่หรอก รีบหนีไป รีบหนีไป "
จอมโจรเริ่มมือไม้อ่อนลง แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่หยุดทุบตี จนบัดนี้ร่างกายคนแก่สองคนได้อ่อนปวกเปียกลง มีแต่เสียงทีแผ่วเบาว่า " โจรจ๋า ฆ่าแต่ฉันนะ อย่าฆ่าลูกฉันเลย ฉันรักเขามาก เขาคือชีวิตของฉัน" "ลูกเอ๋ย เจ้าแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ เจ้าหนีไปให้ได้นะ ชีวิตพ่อกับแม่ทั้งชีวิตนี้แลกได้ทุกอย่างแม้กระทั่งความตายเพื่อเจ้า อย่าห่วงพ่อแม่เลยรีบหนีไปนะลูก รีบหนีไปนะลูก ๆ "
ชายหนุ่มเมื่อได้ฟัง ก็ได้เห็นความรักอันยิ่งใหญ่มหาศาลจากบิดามารดาตน เขาจึงได้สำนึกผิดในความผิดอันใหญ่หลวงที่ตนได้ก่อไว้กับผู้มีพระคุณ ว่าแล้วเขาจึงรีบนั่งคุกเข่าลงไปช้อนเอาร่างคนแก่สองคนมาโอบกอดไว้ แล้วก็ร้องไห้โฮ แต่ทว่าชายหนุ่มคนนี้ยังโชคดีที่บิดามารดายังไม่สิ้นใจ เขาจึงรีบโอบอุ้มเอาร่างบิดามารดาขึ้นเกวียนแล้วรีบพาไปยังบ้านหมอที่เก่ง ที่สุดเพ่อให้รักษาบิดามารดาให้หาย แม้ค่ารักษาจะแลกด้วยทรัพย์สมบัติที่เขามีอยู่ทั้งหมดก็ตาม
วันเวลาผ่านไปบาดแผลกายของคนแก่สองคนก็ได้หายสนิทไป แต่ทว่าบาดแผลในใจชายหนุ่มนี่ซิ ไม่มีทีท่าว่าจะบางเบาเลย