บ่ายแก่ๆวันหนึ่งเจ้าชายกำลังควบม้าฝีเท่าดีมาที่วัดเซนแห่งหนึ่ง เพื่อหวังจะมาพบหลวงพ่อวัดเซน เพื่อที่จะศึกษากระแสจิตแห่งความเมตตาของท่าน แต่...ในขณะนี้เจ้าชายหารู้ไม่ว่า ศรัตรูของเจ้าชายได้สะกดรอยตามมาเพื่อหวังจะฆ่าเจ้าชายให้ตาย
เหตุการณ์นี้พระเซนก็รู้เรื่องด้วยโดยตลอด ดังนั้นเมื่อเจ้าชายมาถึงวัด พระเซนไม่สนทนาอะไรกับเจ้าชายมาก ได้แต่สั่งให้เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ไปเก็บกวาดถ้ำที่เต็มไปด้วยมูลค้างคาว และให้ทำงานหนักอย่างนี้จนถึงเจ็ดวันโดยไม่พูดอะไรด้วยเลย
พอวันที่เจ็ดเจ้าชายทนไม่ไหว รู้สึกเบื่อ
และโกรธจัดมากที่พระเซนให้ตนทำงานไร้สาระ
เขาจึงรีบวิ่งออกมาหาพระเซนและพูดอย่างไม่สุภาพว่า
เจ้าชาย : พอทีเถอะหลวงพ่อ!!!! นี่หรือคือความเมตตาของท่าน ให้เราทำแต่เรื่องไร้สาระอยู่ได้ เราผิดหวังในตัวท่านมาก ไม่เอาแล้วเราจะกลับวัง แต่ก่อนกลับเราขอถามหน่อยว่าทำไม่ท่านจึงทำอย่างนี้กับเรา
พระเซนนิ่งคิดสักครู่ มองหน้าเขาด้วยดวงตาที่ชุ่มเย็นก่อนจะพูดว่า " ช่วงเวลาเจ็ดวันที่เจ้าชายอยู่ที่วัด ได้มีนักฆ่ากลุ่มหนึ่งออกมาตามฆ่าเจ้าชาย อาตมามีความจำเป็นต้องให้ท่านไปหลบซ่อนตัวยู่ในถ้ำก่อน และขออภัยด้วยที่ไม่บอกความจริงให้รู้ เพราะถ้าเจ้าชายรู้พระองค์จะออกมาสู้รบกับนักฆ่าซึ่งมีจำนวนมาก เจ้าชายอาจถึงแก่ชีวิตได้ และต้องขออภัยที่ให้ทำงานหนักเพราะงานจะเป็นสิ่งที่ผูกให้ท่านอยู่ในถ้ำได้ ครบเจ็ดวัน แต่ขณะนี้พวกนักฆ่ากลับไปแล้วเจ้าชายเสด็จกลับวังได้ ปลอดภัยแล้ว
เมื่อเจ้าชายได้ฟัง เขาถึงกลับทรุดตัวลงหมอบกราบพระเซน ความอหังกาเมื่อครู่หายไปหมด เหลือแต่ความปลื้มปีติในความเมตตา จนพูดไม่ออก น้ำตาไหลพราก พร้อมกับบรรจงก้มกราบขอขมาหลวงพ่ออย่างเนิ่นช้า
ก่อนเจ้าชายจะกลับพระเซนได้พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเงียบว่า " บางครั้งแม้เราจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กัน ก็ใช่ว่าผู้รับจะรู้สึกชอบใจเสมอไป แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือสิ่งที่ดีที่สุด ผลย่อมออกมาดีที่สุด ดังนั้น มนุษย์เราควรมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้อื่นเสมอ "
เจ้าชาย : พอทีเถอะหลวงพ่อ!!!! นี่หรือคือความเมตตาของท่าน ให้เราทำแต่เรื่องไร้สาระอยู่ได้ เราผิดหวังในตัวท่านมาก ไม่เอาแล้วเราจะกลับวัง แต่ก่อนกลับเราขอถามหน่อยว่าทำไม่ท่านจึงทำอย่างนี้กับเรา
พระเซนนิ่งคิดสักครู่ มองหน้าเขาด้วยดวงตาที่ชุ่มเย็นก่อนจะพูดว่า " ช่วงเวลาเจ็ดวันที่เจ้าชายอยู่ที่วัด ได้มีนักฆ่ากลุ่มหนึ่งออกมาตามฆ่าเจ้าชาย อาตมามีความจำเป็นต้องให้ท่านไปหลบซ่อนตัวยู่ในถ้ำก่อน และขออภัยด้วยที่ไม่บอกความจริงให้รู้ เพราะถ้าเจ้าชายรู้พระองค์จะออกมาสู้รบกับนักฆ่าซึ่งมีจำนวนมาก เจ้าชายอาจถึงแก่ชีวิตได้ และต้องขออภัยที่ให้ทำงานหนักเพราะงานจะเป็นสิ่งที่ผูกให้ท่านอยู่ในถ้ำได้ ครบเจ็ดวัน แต่ขณะนี้พวกนักฆ่ากลับไปแล้วเจ้าชายเสด็จกลับวังได้ ปลอดภัยแล้ว
เมื่อเจ้าชายได้ฟัง เขาถึงกลับทรุดตัวลงหมอบกราบพระเซน ความอหังกาเมื่อครู่หายไปหมด เหลือแต่ความปลื้มปีติในความเมตตา จนพูดไม่ออก น้ำตาไหลพราก พร้อมกับบรรจงก้มกราบขอขมาหลวงพ่ออย่างเนิ่นช้า
ก่อนเจ้าชายจะกลับพระเซนได้พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเงียบว่า " บางครั้งแม้เราจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กัน ก็ใช่ว่าผู้รับจะรู้สึกชอบใจเสมอไป แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือสิ่งที่ดีที่สุด ผลย่อมออกมาดีที่สุด ดังนั้น มนุษย์เราควรมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้อื่นเสมอ "